ค่าสเปรด ( Spread ) ช่องว่างเล็กๆ ที่นักเทรดมือใหม่ ไม่ควรมองข้าม
Published by bearsleep on
เมื่อจะเริ่มเทรด Forex นักเทรดจะสังเกตเห็นคำว่า Spread ที่โบรกเกอร์แต่ละแห่งจะมีค่านี้ไม่เท่ากัน ซึ่งค่านี้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการเทรดที่นักเทรดไม่ควรมองข้าม เพราะมีผลต่อการได้กำไรและขาดทุนในการส่งออเดอร์คำสั่งซื้อแต่ละครั้ง ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกับค่า Spread ที่เป็นช่องว่างเล็กๆที่มีความหมายอย่างมากต่อการเทรดกันในบทความนี้
ทำความรู้จักกับค่า Spread
หากจะอธิบายค่า Spread ให้เข้าใจกันได้อย่างง่ายๆก็คือค่านี้เป็นค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์คิดจากผู้เทรด โดยการคิดค่า Spread นี้จะคิดจากราคาขาย ( Ask)และราคาซื้อ (Bid) โดยใช้สูตร
ราคา ASK ( ราคาขาย) – ราคา BID (ราคาซื้อ)
โดยราคา Bid Price หรือราคาขาย เป็นราคาที่โบรกเกอร์เสนอให้ โดยใช้กับการเปิดออเดอร์แบบ Sell ส่วนราคา Ask Price นั้นเป็นราคาซื้อ ที่ใช้ในการเปิดออเดอร์แบบ Buy
ตัวอย่างเช่น
การเทรด Forex ในสกุลเงิน EURUSD ที่มีค่า Bid 1.16311 และค่า Ask 1.16324 จะมีค่า Spread เท่ากับ 13 point ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้เทรดมีการเปิดออเดอร์ EURUSD ก็จะถูกหักค่าธรรมเนียมไปทันที 13 point หรือ 1.3 Pips
ในการเทรด forex นั้น เทรดเดอร์จะต้องให้ความสำคัญกับค่า Spread ให้มากเพราะมีผลต่อกำไรขาดทุนในการเทรด เช่น ค่า Spread ของโบรกเกอร์ Aมีค่า Spread ที่มากกว่าโบรกเกอร์ B อยู่ที่ 1 Pips โดยเมื่อคิด Pips ละ 1 USD
ดังนั้น หากเทรดกับโบรกเกอร์ A เป็น 100 ครั้งก็เท่ากับว่าเสียค่า Spread ไปถึง 100 USD ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นผู้เทรดจึงต้องมองหาโบรกเกอร์ที่คิดค่า Spread น้อยๆเป็นหลัก เพราะจะทำให้ต้นทุนในการซื้อถูกจึงมีโอกาสที่จะทำกำไรได้มากขึ้น
ความสำคัญของค่า Spread
เมื่อดูจากรายละเอียดข้างต้น ก็จะรู้แล้วว่า Spread ทำงานอย่างไรในการเทรด ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าค่านี้มีผลอย่างมากกับการทำกำไรและขาดทุนเมื่อมีการออกออเดอร์ในแต่ละครั้ง เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ออกออเดอร์ก็จะมีการติดลบทันทีจากค่านี้
ดังนั้นผู้เทรดจึงควรมองหาโบรกเกอร์ที่มีค่า Spread ต่ำจึงจะช่วยให้สามารถทำกำไรได้มากขึ้น
เมื่อได้รู้จักกับค่า Spread แล้ว ในตอนนี้ผู้เทรดมือใหม่คงจะมีความเข้าใจมากขึ้นว่าค่านี้มีความสำคัญอย่างไร ค่า Spread ที่มากหรือน้อยที่จะทำให้การเทรดมีกำไรได้มากกว่ากัน