สำหรับเทรดเดอร์สายเทคนิคอาจเคยได้ยินมาบ้างกับคำว่า “ตี Fibo” ซึ่งหมายถึง Fibonacci อีกหนึ่งอินดิเคเตอร์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตลาดการลงทุนประเภทต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้น เทรด Forex หรือเทรด Cryptocurrency โดยเทรดเดอร์มักใช้อินดิเคเตอร์ตัวนี้เพื่อระบุจุดเปลี่ยนของราคา หรือคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต ไปพร้อม ๆ กับการใช้อินดิเคเตอร์ตัวอื่นร่วมด้วย เพื่อช่วยจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Fibonacci คืออะไร?

Fibonacci (ฟีโบนักชี) คือ ชุดตัวเลขที่แต่ละตัวจะเท่ากับผลบวกของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า คิดค้นโดย Leonardo Bigollo Pisano นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ตัวอย่างเช่น 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233, 377… โดยตัวเลขเหล่านี้มักจะมีความสัมพันธ์บางอย่างซึ่งกันและกันตามหลักธรรมชาติ เป็นชุดตัวเลขที่รู้จักกันมาอย่างยาวนานในวิชาคณิตศาสตร์ของอินเดีย และมักนำไปใช้งานกันอยู่บ่อย ๆ ในแวดวงการเงินโดยเฉพาะการลงทุนหรือการเทรด

Fibonacci Retracement ใช้อย่างไร?

สำหรับวงการเทรด Fibonacci Retracement เป็นเส้นแนวนอนที่ใช้เพื่อระบุการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น โดยเทรดเดอร์จะวาดหรือลากเส้นในกราฟ จากจุดต่ำสุดและจุดสูงสุด และจากซ้ายไปขวาของราคาที่มีนัยสำคัญตามแผนการเทรดของแต่ละคน จากนั้นจึงวาดเส้นแนวนอนโดยการใช้อัตราส่วน Fibonacci เช่น 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% กับช่วงราคาดังกล่าวที่ได้ลากเส้นไว้ เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยแสดงสัญญาณการกลับตัวของราคาที่เป็นไปได้หรือความต่อเนื่องของแนวโน้ม

Fibonacci Retracement กับ Fibonacci Extension ต่างกันหรือไม่?

Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือเพื่อใช้ระบุระดับแนวรับและแนวต้าน ส่วน Fibonacci Extension จะใช้ระบุแนวโน้ม (Trend) ของราคาว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ก่อนจะเกิดการกลับตัวเพื่อระบุจุดออกหรือจุดขาย โดย Fibonacci Extension ช่วยบอกว่าราคาสามารถไปต่อยังจุดใดหลังจากทะลุแนวรับหรือแนวต้านไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Fibonacci Retracement และ Fibonacci Extension อยู่ที่วัตถุประสงค์และวิธีการใช้งานของแต่ละคนด้วย

ข้อดีของการใช้ Fibonacci คือ

การใช้ Fibonacci หรือการตี Fibo มีข้อดีหลายประการสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น

• การใช้ Fibonacci บนกราฟราคา ช่วยให้เทรดเดอร์เห็นภาพได้ชัดเจน เพื่อประเมินแนวรับแนวต้านได้อย่างรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น
• ช่วยระบุระดับแนวรับแนวต้าน ทำให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนหรือตั้งค่าคำสั่ง Stop-loss หรือคำสั่ง Take Profit ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยจัดการความเสี่ยงในการเทรดได้ดียิ่งขึ้น
• เมื่อระดับ Fibonacci สอดคล้องกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือเส้นแนวโน้ม ช่วยยืนยันสัญญาณสำหรับจุดเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้น
• สามารถใช้ได้กับกรอบเวลาต่าง ๆ ตั้งแต่การลงทุนระยะสั้นไปจนถึงการลงทุนระยะยาว

สรุป การใช้ Fibonacci กับการเทรด

Fibonacci เป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มนักลงทุน อีกทั้งการตี Fibo มักใช้งานร่วมกับอินดิเคเตอร์ตัวอื่น ๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือ RSI เพื่อให้ได้สัญญาณการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย หากคุณอยากใช้อินดิเคเตอร์เพื่อการเทรดได้อย่างมืออาชีพ Indy Trader มีคอร์สเรียนให้คุณเลือกมากมายทั้งเทรดทองคำ และคอร์สสอน Forex เบื้องต้น ให้คุณมีความพร้อมทุกการลงทุน และสามารถทำกำไรได้ด้วยตัวเอง