Forex คืออะไร

Published by bearsleep on

Forex

Forex คืออะไร?

Forex หรือที่รู้จักกันในชื่อเต็มว่า Foreign Exchange หมายถึงการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดการซื้อขายสกุลเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก Forex ไม่ได้เป็นตลาดที่มีสถานที่ตั้งจริง แต่เป็นตลาดแบบ Over-the-Counter (OTC) ซึ่งหมายความว่าการซื้อขายจะดำเนินผ่านเครือข่ายระหว่างธนาคาร โบรกเกอร์ นักลงทุน และผู้เทรดทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง

การเทรด Forex นั้นมักเป็นการซื้อและขาย คู่สกุลเงิน (Currency Pairs) เช่น EUR/USD ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนเงินยูโร (EUR) เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ราคาของคู่สกุลเงินนี้จะแสดงให้เห็นว่าเงินยูโร 1 หน่วยมีค่าเท่าใดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

Forex
ลักษณะของตลาด Forex

ตลาด Forex มีความโดดเด่นในหลายประการ เช่น:

1. สภาพคล่องสูง (High Liquidity)

ตลาด Forex มีปริมาณการซื้อขายที่สูงมาก โดยมีการซื้อขายรวมกันต่อวันกว่า 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ Forex เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงมาก ซึ่งหมายความว่าผู้เทรดสามารถซื้อและขายสกุลเงินได้ง่ายและรวดเร็วในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด

2. เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่ตลาดซิดนีย์เปิดในวันจันทร์ จนถึงตลาดนิวยอร์กปิดในวันศุกร์ เวลาทำการนี้ทำให้นักเทรดสามารถเลือกเวลาเทรดที่เหมาะสมกับตารางชีวิตได้ โดยไม่จำกัดเฉพาะช่วงเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์

3. การเทรดด้วย Leverage

Leverage หรือการใช้เงินทุนยืม เป็นอีกลักษณะเด่นของตลาด Forex Leverage ช่วยให้นักเทรดสามารถเปิดการซื้อขายด้วยมูลค่าที่สูงกว่าทุนที่มีอยู่จริง ตัวอย่างเช่น หากคุณมี Leverage 1:100 และเงินทุน 1,000 ดอลลาร์ คุณสามารถเปิดการซื้อขายได้ถึง 100,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Leverage ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะหากตลาดเคลื่อนไหวตรงข้ามกับการคาดการณ์ ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็จะมากขึ้นเช่นเดียวกัน

4. การเก็งกำไรจากการขึ้นและลงของตลาด

ในตลาด Forex นักเทรดสามารถทำกำไรได้ทั้งจากการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางขึ้น (Buy) และทิศทางลง (Sell) ไม่ว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง การเคลื่อนไหวของราคามักจะเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ข่าวเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมือง และนโยบายทางการเงิน

Forex
คู่สกุลเงิน (Currency Pairs) ใน Forex

การเทรดในตลาด Forex เกิดขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงิน คู่สกุลเงินที่เทรดกันในตลาด Forex จะแบ่งเป็นสามประเภทหลัก:

1. คู่สกุลเงินหลัก (Major Pairs)

คู่สกุลเงินหลักคือคู่ที่มีการซื้อขายมากที่สุดและมีสภาพคล่องสูง เช่น:
– EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ)
– GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)
– USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)
– USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิส)

2. คู่สกุลเงินรอง (Minor Pairs)

คู่สกุลเงินรองคือคู่ที่ไม่รวมสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังคงมีการซื้อขายอยู่บ่อย เช่น:
– EUR/GBP (ยูโร/ปอนด์อังกฤษ)
– EUR/AUD (ยูโร/ดอลลาร์ออสเตรเลีย)
– GBP/JPY (ปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น)

3. คู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic Pairs)

คู่สกุลเงินแปลกใหม่คือการจับคู่ระหว่างสกุลเงินหลักกับสกุลเงินจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น:
– USD/THB (ดอลลาร์สหรัฐ/บาทไทย)
– USD/ZAR (ดอลลาร์สหรัฐ/แรนด์แอฟริกาใต้)

คู่สกุลเงินแปลกใหม่มักจะมีสภาพคล่องต่ำและมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมีความผันผวนสูง

Forex
ความเสี่ยงและโอกาสในตลาด Forex

1. โอกาสในการทำกำไร
ตลาด Forex เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของสกุลเงินทั่วโลก หากนักเทรดสามารถวิเคราะห์ตลาดและจับจังหวะได้ถูกต้อง การทำกำไรในตลาด Forex อาจจะเป็นไปได้ในระยะเวลาสั้น

2. ความเสี่ยง
การเทรด Forex นั้นมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเมื่อใช้ Leverage สูง ความเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนที่มากได้ การเทรดอย่างรอบคอบและมีการจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมี

การเริ่มต้นเทรด Forex

หากคุณสนใจที่จะเริ่มต้นเทรดในตลาด Forex นี่คือขั้นตอนพื้นฐานที่คุณสามารถทำตามได้:

1. เรียนรู้พื้นฐาน
การทำความเข้าใจพื้นฐานของการเทรด Forex เช่น วิธีการอ่านกราฟราคา, การวิเคราะห์ทางเทคนิค, การบริหารความเสี่ยง, และการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ตลาดเป็นสิ่งสำคัญ การเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลเช่นหนังสือ, คอร์สออนไลน์, หรือการเข้าร่วมสัมมนาสามารถช่วยให้คุณเข้าใจตลาดมากขึ้น

2. เปิดบัญชีเทรด
เมื่อคุณพร้อมแล้ว คุณสามารถเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ โบรกเกอร์จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงคุณเข้ากับตลาด บัญชีเทรดสามารถแบ่งเป็นบัญชีทดลอง (Demo Account) และบัญชีจริง (Real Account) ซึ่งบัญชีทดลองเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการฝึกฝนการเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินทุนจริง

3. ฝึกฝนและทดลองกลยุทธ์
ก่อนที่จะเริ่มเทรดด้วยเงินจริง คุณควรฝึกฝนและทดลองกลยุทธ์ต่างๆ ในบัญชีทดลองเพื่อทำความเข้าใจว่ากลยุทธ์ใดที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ

4. การจัดการความเสี่ยง
การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งที่จำเป็น การใช้ Stop Loss และ Take Profit จะช่วยป้องกันการขาดทุนที่มากเกินไปและช่วยรักษากำไรที่ได้รับ

Forex
สรุป


ตลาด Forex เป็นตลาดการแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เทรดสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาได้ ตลาดนี้มีลักษณะพิเศษที่ทำให้แตกต่างจากตลาดการเงินอื่นๆ เช่น สภาพคล่องสูง เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง และมี Leverage ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม การเทรดในตลาด Forex ก็มีความเสี่ยงสูง และจำเป็นต้องมีการวางแผนการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ